คุณกำลังมองหาอะไร?

ติดตามผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการ

การประชุมคณะทำงานตอบโต้ภาวะฉุกเฉินและสาธารณภัยด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย

ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) และโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

  

  เดือนกุมภาพันธ์  ปีงบประมาณ 2565

 

20

 

 

20

 

 

0

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เรื่องสืบเนื่อง

1 สรุปสถานการณ์โควิด-19 จาก PHEOC กระทรวงฯ

(รายละเอียดขอให้ศึกษาจากเอกสารการประชุมที่แจ้งเวียนในกลุ่มไลน์ “ทีม SEhRT)

- ที่ประชุม รับทราบ  โดยมีข้อเสนอแนะ ดังนี้

1. บทบาทกรมฯ ต้องชัดเจนในการกำกับ ติดตาม ดูแล setting เน้นการลงพื้นที่ และสื่อสารให้ประชาชนมั่นใจ หน่วยงานเชื่อมั่น ทั้ง HL และ OP ต้องทำปฏิบัติการ

2. ต้องเข้าไปช่วยservice บางส่วน activate การทำ HI, CI และดูแลหญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในกทม.

3. ให้พื้นที่รณรงค์การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันหญิงตั้งครรภ์ โดยกระตุ้นให้หญิงวัยจเริญพันธุ์/ เตรียมมีบุตร รวมถึงคนในครอบครัวที่มีหญิงตั้งครรภ์ให้ฉีดวัคซีนทุกคน

4. ฝากพื้นที่ดูแลให้โรงเรียนต้องจัดระบบตามมาตรการ school zone, school isolation

กผ.

 

หน่วยงาน

ที่เกี่ยวข้อง

ศอ.

 


 

หน่วยงานรับทราบ

รายงานอนามัยโพล

 1.เพื่อการสื่อสาร เสนอให้กองส่งเสริมความรอบรู้และสื่อสารสุขภาพสื่อสาร ดังนี้

1.1. ให้คำแนะนำเรื่อง Home Isolation (HI)  และการปฏิบัติตนหลังรักษาการติดเชื้อโควิด19 เพื่อป้องกันภาวะ “Long COVID”

1.2. นำผลสำรวจอนามัยโพล ไปใช้ประกอบการสื่อสาร เน้นย้ำให้ประชาชน มีพฤติกรรมป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ การสวมหน้ากากตลอดเวลา ล้างมือเป็นประจำและเว้นระยะห่าง

2). เพื่อกำกับติดตาม เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลในประเด็นกิจกรรม/ความเสี่ยงที่พบเห็นในชุมชนบริเวณที่พักอาศัยไปใช้ประโยชน์ในการกำกับติดตามการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด ๑๙ ในประเด็นที่ประชาชนพบเห็นในชุมชนมากที่สุด ได้แก่

2.1.พบเห็นตลาดสด ตลาดนัด แออัด ไม่เว้นระยะห่าง เสนอสำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ ศูนย์อนามัยที่ ๑-๑๒ และ สสม. เน้นย้ำ กำกับติดตามให้ตลาดมีการปฏิบัติตาม COVID Free settingโดยเฉพาะควบคุมและจำกัดคนไม่ให้แออัด และไม่ให้พ่อค้า/แม่ค้าในตลาดกินข้าวร่วมกัน

2.2 พบเห็นการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มในชุมชนอย่างแออัด ไม่เว้นระยะห่าง มีคนไม่สวมหน้ากากหรือสวมไม่ถูกต้อง เสนอให้ ศูนย์อนามัยที่ ๑-๑๒ และสสม.กำกับติดตามการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มในชุมชนและเน้นย้ำพฤติกรรมการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค

2.3 พบเห็นนักเรียนไม่สวมหน้ากากหรือสวมไม่ถูกต้อง เสนอคลัสเตอร์วัยเรียนเน้นย้ำให้โรงเรียน/สถานศึกษา สื่อสารให้คำแนะนำนักเรียนให้สวมหน้ากากตลอดเวลาและสวมอย่างถูกต้อง

- ที่ประขุม รับทราบ และมีข้อสั่งการ ดังนี้

1. ให้หา correlation ของการเว้นระยะห่างกับการไม่สวมหน้ากากในตลาด โดยนำเสนอในครั้งหน้า

2.ฝากศอ.๑๑ดูแลกรณีพบการติดเชื้อสูงมากในจ.นครศรีธรรมราช  (อันดับ ๔ ของประเทศ) ซึ่งพบเกิดจากการไปใช้บริการผับที่ลักลอบเปิดบริการโดยไม่มีการเว้นระยะห่างและไม่สวมหน้ากาก

กรส.

 

 

 

 

หน่วยงาน

ที่เกี่ยวข้อง

 

สอน.+

ศอ.


 

 

 

 

 

 

 

 

กป.

 

ศอ.๑๑

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หน่วยงานรับทราบ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อยู่ระหว่างดำเนินการและจะนำเสนอในวันพฤหัสบดีที่ 3 มี.ค.65

หน่วยงานรับทราบ

รายงานของกอง HL

- ที่ประชุม รับทราบ โดยมีข้อสั่งการดังนี้

1. ให้ กรส.พิจารณาการปรับแก้ไขในประเด็นที่กลุ่มวัยเรียนเสนอให้ปรับการสื่อสารในมาตรการ UP ของโรงเรียนเป็นมาตรการ ๖0๗ เพื่อให้สอดคล้องกับศบค.

2. ให้ กผ.ติดตามงบฯกลางเพื่อนำมาใช้ในการเผยแพร่สื่อที่กรส.จะดำเนินการ 

3.4.2. รายงานของ OP โดยเสนอ

ให้ทุกหน่วยงานจัดทำแผนการลงพื้นที่ (สถานประกอบการ ตลาด ร้านอาหาร และชุมชนแออัด) เพื่อให้การสนับสนุนทีม OP กรมอนามัย ร่วมปฏิบัติการมายังสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม ภายในวันที่ 1 มีนาคม 2565 จะมีหนังสือแจ้งหน่วยงานให้เสนอแผนต่อไป

- ที่ประชุม รับทราบ ให้ดำเนินการตามข้อเสนอ โดยมีข้อสั่งการเพิ่มเติมดังนี้

1. ให้ กรส. สื่อสารประชาชนและนักเรียนเข้าใจถึงความรุนแรงของ Omicron ที่มีน้อย ไม่ควรสื่อสารเป็นจำนวนการติดเชื้อซึ่งทำให้เกิดความตื่นตระหนก เมื่อติดเชื้อแม้อาการไม่มากก็พยายามจะเข้ารักษาในรพ.ทำให้เกิดปัญหาคอขวดในการรับ case ของ 1330

กรส.

 

กผ.

 

 

 

 

 

 

 

กรส.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

กรส. ได้ดำเนินการปรับตามข้อสั่งการเรียบร้อยแล้ว

 

หน่วยงานรับทราบ

 

 

 

 

 

 

 

 

ดำเนินการตามข้อสั่งการ

 เรื่องเพื่อทราบ :

4.1. สถานการณ์การบริหารจัดการมูลฝอยติดเชื้อในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

(รายละเอียดขอให้ศึกษาจากเอกสารการประชุมที่แจ้งเวียนในกลุ่มไลน์ “ทีม SEhRT)

- ที่ประชุม รับทราบ โดยมีข้อสั่งการ ให้สว.ดำเนินการ ดังนี้

1.ให้ monitor ระบบให้มีประสิทธิภาพตามที่ประมาณการณ์ไว้

2.ย้ำหนังสือแนวทางการจัดการขยะให้ชัดเจนถึงการแยกขยะไม่ติดเชื้อออกไป โดยในขณะนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นการรักษาตัวในระบบ HI ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ใช่ขยะติดเชื้อ ดังนั้นให้ทำหนังสือถึงกระทรวงหรือออกในนามเลขากสธ.ถึงประธานกสธ.โดยเน้นเรื่องการลดปริมาณมูลฝอยติดเชื้อ และสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ

3. ให้หน่วยงานที่ร่วมกันจัดการฯ ต้องดำเนินการจนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย

4.จัดทำหนังสือแจ้งคณะกรรมสาธารณสุขจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำกับ ติดตามการบริหารจัดการมูลฝอยติดเชื้อในพื้นที่ พร้อมสื่อสารสร้างการรับรู้ประชาชนเพื่อลดปริมาณมูลฝอยติดเชื้อในชุมชน และลดการเผาที่ไม่จำเป็น

5. สื่อสารเน้นย้ำให้ประชาชนเข้าใจและปฏิบัติในการแยกขยะให้ถูกต้องตามที่กรมอนามัยกำหนดไว้ เพราะเป็นเรื่องสำคัญมากเนื่องจากขยะอื่นจะรบกวนระบบการเผาทำให้ไม่ได้ประสิทธิภาพ

 

สว.

 

อยู่ระหว่างดำเนินการฯ

ตามข้อสั่งการ

และอยู่ระหว่างดำเนินการ

ร่างหนังสือถึงกระทรวงฯ

 4.2 สรุปการประชุมปรึกษาหารือการบริหารจัดการโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น

(รายละเอียดขอให้ศึกษาจากเอกสารการประชุมที่แจ้งเวียนในกลุ่มไลน์ “ทีม SEhRT)

- ที่ประชุม รับทราบ โดยมีข้อเสนอแนะ ดังนี้

  1. ให้เตรียมความพร้อมในเรื่องคนในหน่วยที่เกี่ยวข้องกับงานที่กระทรวงอาจขอให้ไปร่วมดำเนินการ
  2. 2. เตรียมการสำหรับการเริ่มเข้าสู่สถานการณ์ปกติ (normal) การใช้ชีวิตกับโควิด โดยให้ review การดำเนินการของต่างประเทศในการเตรียมกลับสู่ภาวะปกติ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานของกรมอนามัย แล้วนำมาเตรียม component ด้านนั้นไว้ ตั้งแต่ระยะที่ดำเนินการได้ทันที ตลอดไปจนถึงช่วงเตรียมการ-เปลี่ยนผ่าน-สิ่งที่ต้อง maintain เมื่อสถานการณ์อ่อนตัวลง เช่น hygiene, sanitation โดยเฉพาะอย่างยิ่ง HL

 กผ.

 

ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องรับทราบ

เรื่องอื่นๆ :

6.1. ให้ติดตามสถานการณ์จากสธ.และนำข้อมูลจาก SAT มาแชร์ให้ SAT กรมอนามัยและผู้เกี่ยวข้องทราบ

6.๒. ให้ผอ.กผ.วิเคราะห์สถานการณ์ แนวโน้มความจำเป็นในการเพิ่ม/ลดวันประชุม EOC กรม โดยให้รายงานในครั้งหน้า

ผู้เกี่ยวข้อง

กผ.

 

หน่วยงานรับทราบ

1. ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อสั่งการ PHEOC

ทุกหน่วยงาน

 

 

รับทราบ

2. ข้อสั่งการ PHEOC กระทรวงสาธารณสุข
   2.1 มอบหมายคลัสเตอร์วัยเรียน หารือร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กรุงเทพมหานคร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการจัดทำข้อมูลสรุปสถานการณ์ และมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 สำหรับโรงเรียน และสถานศึกษา โดยครอบคลุมมาตรการในช่วงการเปิดเรียน พิจารณาข้อมูลโรงเรียนที่ไม่เปิด ผู้รับผิดชอบในการสั่งการ ส่วนเรื่องการเปิดสอบต้องส่งเสริมให้มีการสอบ โดยขอให้ คลัสเตอร์วัยเรียนสรุปมติจากที่ประชุมหารือดังกล่าว เสนอต่อที่ประชุม PHEOC กระทรวงสาธารณสุข พิจารณาในวันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ถ้าวาระที่ประชุมมีจำนวนมากเสนอเป็นเอกสารเพื่อทราบ และนำเสนอที่ประชุม ศปก.ศบค.ต่อไป

Cluster วัยเรียน

สำนักส่งเสริมสุขภาพ

 

 

 

3. อนามัยโพล ประเด็น “กิจกรรม เทศกาลสำคัญเดือนกุมภาพันธ์ และการสังเกตความเสี่ยงและการปฏิบัติตามมาตรการป้องโรคของสถานที่ท่องเที่ยว”
   3.1 มอบกองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพเฝ้าระวังในประเด็นของฝุ่น PM 2.5
   3.2 มอบทีมอนามัยโพลพิจารณาถึงการตั้งคำถาม โดยก้าวข้ามโควิด – 19  เช่น ประชาชนต้องอยู่กับโควิดอย่างไร มีกิจกรรมอะไรบ้างที่ทำไม่ได้จากสถานการณ์โควิด – 19 รวมทั้งมีผลต่อมิติอื่นๆ ด้วย  

กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ

 

 

4. รายงานความก้าวหน้ากล่อง HL
   4.1 มอบกองเสริมสร้างความรอบรู้และสื่อสารสุขภาพ ตรวจจับข่าวให้มีความครอบคลุมทันต่อสถานการณ์ รวมถึงการตอบโต้ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรมอนามัยในการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม และขอให้ปรับแนวทางการสื่อสารโดยใช้ Social Listening เพื่อให้ได้ข้อมูลที่หลากหลายมิติ พร้อมกำหนดกลยุทธ์การสกัดกั้นข้อมูลที่เป็นความขัดแย้ง และข้อมูลเท็จก่อนเผยแพร่
   4.2 มอบกองเสริมสร้างความรอบรู้และสื่อสารสุขภาพสื่อสารการเปิดโรงเรียนในสถานการณ์การระบาดของโควิด – 19 โดยประสานคลัสเตอร์สตรีและเด็กปฐมวัย คลัสเตอร์วัยเรียนวัยรุ่นพิจารณาข้อมูล จำนวนเด็กที่ไปเรียนจำนวน จำนวนนักเรียนที่ติดเชื้อ จำนวนนักเรียนที่มีอาการรุนแรง สาเหตุการติดเชื้อ  วิเคราะห์ความคุ้มค่าในการเปิดโรงเรียนกับการติดเชื้อ ฯลฯ เพื่อที่จะได้ประมวลข้อมูลสื่อสารอย่างเหมาะสม

กรส.

 

 

5. เรื่องเพื่อพิจารณา
   5.1 (ร่าง) มาตรการความปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID Free Setting) ในการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนในชุมชน ระหว่างสถานการณ์การระบาดโควิด – 19 และกลไกกำกับ
      - มอบหมายกองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ ปรับ (ร่าง) มาตรการความปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID Free Setting) ในการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนในชุมชน ระหว่างสถานการณ์การระบาดโควิด – 19 และกลไกกำกับ โดยปรับกราฟ ข้อความให้มีความชัดเจนมากขึ้น  สำหรับเกณฑ์พิจารณาความเสี่ยงให้แยกเป็นเสี่ยงทั่วไปและเสี่ยงสูง เสี่ยงสูงให้ตรวจโดยใช้ ATK ซึ่งต้อง List กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง การวิเคราะห์ความเสี่ยงต้องมี Logic  สามารถไปปฏิบัติได้ ปรับแล้วให้เสนอที่ประชุม EOC กรมอนามัยวันที่ 17 ก.พ.65 เสนอในการประชุม PHEOC กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 22 ก.พ.65 และนำเสนอที่ประชุม ศปก.ศบค. วันที่ 24 ก.พ.65

กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ

 

 

6. เรื่องอื่น ๆ
    - มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมการทบทวนมาตรการ COVID Free Setting รองรับกรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ โดยให้เตรียมจัดทำมาตรการที่สอดคล้องกับแนวปฏิบัติของกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข โดยเน้นการดำเนินการด้านสุขาภิบาล สุขอนามัย และอนามัยสิ่งแวดล้อมที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน รวมทั้งเป็นไปตามแนวปฏิบัติด้านการส่งเสริมสุขภาพตามกลุ่มวัย เพื่อให้เกิดการบังคับใช้ตามกฎหมายในระดับพื้นที่ต่อไป

ทุกหน่วยงาน

 

 

รับทราบ

รายงานอนามัยโพล - ข้อเสนอ

๑) เพื่อการสื่อสาร เสนอให้กองส่งเสริมความรอบรู้และสื่อสารสุขภาพนำผลการสำรวจอนามัยโพลไปใช้ในการสื่อสาร คำแนะนำการป้องกันโรคเมื่อไปสถานที่ต่างๆ ในช่วงเทศกาลเดือน ก.พ. (ได้แก่ ไปทำบุญ เวียนเทียนที่วัด และไปเที่ยว รับประทานอาหารกับคู่รัก ที่ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว)

๒) เพื่อการกำกับติดตาม เสนอให้สำนักอนามัยผู้สูงอายุ และศูนย์อนามัยที่ 1-12 และ สถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง นำผลอนามัยโพลไปใช้ประกอบการกำกับติดตาม เน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ในวัดและศาสนสถาน โดยเฉพาะข้อที่พบว่าทำได้น้อย และมีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรค ได้แก่

- การสวมหน้ากากตลอดเวลาและสวมอย่างถูกต้อง

- ติดใบประกาศ COVID Free Setting ที่วัดและศาสนสถาน ให้เห็นชัดเจน

- คัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้าด้วย "ไทยเซฟไทย“

- ถังขยะมีฝาปิดมิดชิด และไม่มีขยะล้นออกมานอกถัง

- ห้องน้ำ ห้องส้วมสะอาด ไม่มีกลิ่น ไม่มีน้ำขัง

- ที่ประขุม รับทราบ และ ผอ.กผ. เสนอแนะ.ให้เจ้าภาพ setting มี OP ลงไปช่วยนอกจากการสื่อสารด้วย เช่น จัด event   

กอง HL

 

 

 

สอส.+ศอ.+สสม.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว เช่น การป้องกันตนเองเมื่อไปวัดทำบุญ

 

สอส. จะมีการแถลงข่าวของกรมอนามัยร่วมกับกรมการศาสนา ในวันที่ 15 ก.พ. 65  เกี่ยวกับมาตรการป้องกัน  CFS , Setting ศาสนสถาน และผ่านทาง Facebook Live

ศอ.และสสม. รับทราบ

 

 

 

 

 

 การขับเคลื่อนมาตรการป้องกัน COVID-19 และการส่งเสริมสุขภาพในช่วงวันมาฆบูชา

- ที่ประชุม รับทราบและเห็นชอบตามที่เสนอ โดยประธานขอให้คงระยะการประเมิน CFS ในศาสนสถานทุก ๒ สัปดาห์ตามเดิมก่อน เนื่องจากสถานการณ์การติดเชื้อช่วงนี้เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะในช่วงวันมาฆบูชาขอให้ไปกำกับติดตามเป็นพิเศษ  และผอ.กผ.เสนอแนะว่าควรต้องมีการสื่อสารกับsettingให้เข้าใจถึงความสำคัญและความจำเป็นในการดำเนินการ แนะนำให้จัด conference เพื่อสื่อสารทำความเข้าใจกับพระคิลาฯ นอกจากใช้ LINE

สอส.+ศอ.+สสม.   หน่วยงานรับทราบ

เรื่องเพื่อทราบ :

1. การขับเคลื่อนมาตรการป้องกัน COVID-19 และการส่งเสริมสุขภาพในช่วงวันวาเลนไทน์

- ที่ประชุม รับทราบ โดยมีข้อเสนอแนะให้ HL ร่วมกับสอพ. สื่อสารความรู้ด้านอนามัยเจริญพันธุ์รวมถึงมาตรการป้องกันโควิด CFS และ VUCAในกิจกรรมต่างๆ ในช่วงวันวาเลนไทน์

2. การขับเคลื่อนมาตรการป้องกัน COVID-19 และการส่งเสริมสุขภาพในช่วงงานมาราธอน กทม.(รายละเอียดขอให้ศึกษาจากเอกสารการประชุมที่แจ้งเวียนในกลุ่มไลน์ “ทีม SEhRT)

- ที่ประชุม รับทราบ โดยมีข้อเสนอแนะให้กองกิจกรรมฯ และศอ.ช่วยสนับสนุนและเผยแพร่มาตรการฯ

HL+สอพ.

 

 

กองกิจกรรมฯ

 

 

ดำเนินการร่วมกันกับ สอพ. เรียบร้อยแล้ว

 

 

หน่วยงานรับทราบ

เรื่องอื่นๆ :

ประธานขอให้ช่วยกันเผยแพร่ INFO ความรู้ของ รพ. จุฬาฯ เรื่อง ภาวะ MIS-C ที่เกิดหลังการติดเชื้อโควิดในเด็ก เพื่อลดความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิต

ศ.สื่อ+HL

  ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว
1. ข้อสั่งการ PHEOC กระทรวงสาธารณสุข
   1.1 มอบหมายสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม ดำเนินการจัดทำมาตรการ COVID Free Setting สำหรับการจัดรายการโทรทัศน์ การแสดงละคร โดยพิจารณาเรื่องมาตรการสวมหน้ากากของผู้ดำเนินรายการหรือนักแสดง และมาตรการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมกับรูปแบบกิจกรรมดังกล่าว
   1.2 มอบหมาย สสม. และ ศูนย์อนามัยที่ 4 สระบุรี กำกับ ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในตลาด พร้อมตรวจสอบ วิเคราะห์ โดยเฉพาะพื้นที่ที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดปทุมธานี และให้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะทำงานตอบโต้ภาวะฉุกเฉินและสาธารณภัยด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อให้ทราบปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดการระบาดของโรคที่เพิ่มสูงขึ้นและกำหนดมาตรการการดำเนินงานต่อไป

สำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม

 

 

 

สสม. และ
ศูนย์อนามัยที่ 4 สระบุรี

   
2. อนามัยโพล ประเด็น “ผลการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล Universal Prevention”
   2.1 มอบหมายกองส่งเสริมความรอบรู้และสื่อสารสุขภาพ นำผลสำรวจอนามัยโพลไปใช้ประกอบการสื่อสารเน้นย้ำให้ประชาชนมีพฤติกรรมป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ DMH ได้แก่ การสวมหน้ากากตลอดเวลา ล้างมือเป็นประจำ และเว้นระยะห่าง รวมทั้ง สร้างความรอบรู้เรื่องอัตราค่าปรับสวมหน้ากากและการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง และนำข้อมูลสาเหตุของการปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรการ UP ประกอบการจัดทำคำแนะนำสำหรับสื่อสารประชาชนต่อไป

กรส.

   
3. เรื่องอื่น ๆ
 - ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมข้อมูลนำเสนอที่ประชุม EOC กรมอนามัย  ตามมติที่ประชุมในข้อเสนอแผนปฏิบัติการจากการคาดการณ์สถานการณ์ในช่วงเดือนมกราคม – เมษายน 2565 โดยกองแผนงานจะลงข้อมูลหน่วยงานและวันที่นำเสนอที่ประชุม EOC กรมอนามัยในกลุ่มไลน์ STAG ให้รับทราบ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง     รับทราบ