คุณกำลังมองหาอะไร?

ติดตามผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการ

การประชุมคณะทำงานตอบโต้ภาวะฉุกเฉินและสาธารณภัยด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย

ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) และโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

  

  เดือนพฤษภาคม  ปีงบประมาณ 2565

 

0

 

 

0

 

 

0

 

 

 

Date_30

1. สำรวจข้อมูล (Name List) เพื่อจัดทำทะเบียนข้อมูลสถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ และกำกับติดตามการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขของสถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ โดยเฉพาะในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว และลงสุ่มตรวจกำกับติดตามรวมกับศูนย์อนามัยและหน่วยงานในพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเช่น เชียงใหม่ กทม. ภูเก็ต ฯลฯ

ศอ.1-12 และ สสม.

สำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม

   

2. นำผลอนามัยโพลไปใช้ประกอบการสื่อสารเน้นย้ำให้ประชาชนยังคงมีพฤติกรรมป้องกันโรคตามมาตรการความปลอดภัยแบบครอบจักรวาร (Universal Prevention) อย่างต่อเนื่อง และจัดทำ Key message สำหรับสื่อสารสร้างความรอบรู้ในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุและการฉีดวัคซีนเนื่องจากผลสำรวจอนามัยโพล ยังพบเหตุผลที่ยังไม่ฉีดวัคซีนหรือฉีดวัคซีนยังไม่ครบ ได้แก่ กลัวผลข้างเคียงของการได้รับวัคซีน คิดว่าฉีดวัคซีน 1-2 เข็มก็เพียงพอแล้ว อยากศึกษาข้อมูลก่อนฉีด เห็นคนฉีด 3 เข็มแล้วยังติดเชื้อ เป็นต้น

กอง HL

   

3. เน้นย้ำสื่อสารให้สถานประกอบกิจการปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร COVID Free Setting และประเมินรับรองตนเองผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID Plus 

กอง HL    

4.1 ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัด บูรณาการร่วมกับ มท. อปท. คกก.โรคติดต่อจังหวัด ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือให้สถานประกอบกิจการสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร COVID Free Setting และประเมินรับรองตนเองผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID Plus พร้อมทั้งจัดตั้งทีมสุ่มตรวจประเมินกำกับติดตามการปฏิบัติตามมาตรการฯ สถานประกอบกิจการสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ในพื้นที่

4.2 มอบหมายสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อมทบทวนฐานข้อมูลสถานบันเทิง (Name List) จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นปัจจุบัน ทั้งนี้ ให้ครอบคลุมไปถึงฐานข้อมูลร้านอาหารที่เปิดให้บริการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 

ศอ.1-12 และ สสม.

 

 

 

 

สว. สอน.

   

5. เตรียมความพร้อมสนับสนุนข้อมูลสำหรับผู้บริหารหน่วยงาน รองรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ในช่วงระหว่างวันที่ 31 พ.ค. - 2 มิ.ย.65 รวม 3 วัน โดยขอให้ผู้บริหารหน่วยงาน Stand by ตลอดการประชุมตามกำหนดดังกล่าว

ทุกหน่วยงาน     รับทราบ

เรื่องสืบเนื่อง

3.1 สรุปสถานการณ์โควิด-19 จาก PHEOC กระทรวงฯ ทั้งนี้ได้มีการนำเสนอสถานการณ์และมาตรการการเฝ้าระวังโรคฝีดาษลิงในที่ประชุมด้วย

(รายละเอียดดังเอกสารการประชุมที่แจ้งเวียนในกลุ่มไลน์ “ทีม SEhRT)

- ที่ประชุม รับทราบ โดยมีข้อเสนอแนะจากผู้ทรงฯ สมพงษ์ ดังนี้

เนื่องจากโรคฝีดาษลิงและคนอยู่ในตระกูลเดียวกัน ดังนั้นการป้องกันโดยใช้วัคซีนโรคฝีดาษในคนจึงสามารถป้องกันได้ (85 %) ซึ่งผู้ที่เกิดก่อน พ.ศ. 2523 ได้รับวัคซีนแล้ว แต่หลังจากนั้นจะไม่เคยได้รับวัคซีน ทั้งนี้ปัจจุบันมีเพียงประเทศสหรัฐอเมริกาและรัสเซียเท่านั้นที่มีการเก็บรักษาเชื้อนี้ไว้ และเนื่องจากโรคนี้มีอาการคล้ายหวัดและติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วย/สัตว์ป่า air borne และกินเนื้อสัตว์ที่ไม่ปรุงสุก จึงสามารถใช้มาตรการป้องกันเช่นเดียวกับโควิดได้ (กินอาหารปรุงสุก ล้างมือ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง เป็นต้น)

กองแผนงาน     หน่วยงานรับทราบ

3.2 รายงานอนามัยโพล

 “การรับรู้ทัศนคติต่อมาตรการป้องกันโรคและความพร้อมต่อการให้โควิด19 เป็นโรคประจำถิ่น”

(รายละเอียดดังเอกสารการประชุมที่แจ้งเวียนในกลุ่มไลน์ “ทีม SEhRT)

- ข้อเสนอ เพื่อการสื่อสาร เสนอให้กองส่งเสริมความรอบรู้และสื่อสารสุขภาพนำผลสำรวจอนามัยโพลไปใช้ประกอบการสื่อสาร สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เช่น การดูแลตนเองเบื้องต้นและขั้นตอน วิธีเข้าถึงบริการรักษา เป็นต้น และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน โดยเน้นให้ปฏิบัติตนในการป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง

กป.

 

 

กรส.

 

 

กรส.
   

5.1 คำแนะนำการใช้อุปกรณ์ส่วนบุคคลป้องกันการติดเชื้อ (PPE) สำหรับบุคลากรด้านสาธารณสุขและประชาชน

(รายละเอียดดังเอกสารการประชุมที่แจ้งเวียนในกลุ่มไลน์ “ทีม SEhRT)

- ที่ประชุม รับทราบ โดยมีข้อเสนอแนะจากที่ประชุม ดังนี้

- ผู้ทรงฯ สมพงษ์ : ให้คงมาตรการสวมหน้ากากสำหรับกลุ่ม 608 ไว้ และให้ review มาตรการ PPE ในส่วนของภาคประชาชน จากแหล่งข้อมูลอื่นและของต่างประเทศเพิ่มเติม

- ผอ.กผ.: มาตรการสำหรับบุคลากรการแพทย์ทางกรมการแพทย์น่าจะดำเนินการแล้ว เสนอว่ากรมอนามัยควรจะ focus ไปที่มาตรการการใช้ PPE สำหรับประชาชนทั่วไปและเจ้าหน้าที่ภาคประชาชน เช่น อสม. เจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่เก็บศพ เจ้าหน้าที่ที่เก็บตัวอย่างน้ำเสีย เป็นต้น

ส.ทันตะฯ.

    หน่วยงานรับทราบ

5.2 (ร่าง) ปรับเกณฑ์การพิจารณาความเสี่ยงกิจกรรม/ กิจการ/ สถานประกอบการ ตามระดับสถานการณ์

(รายละเอียดขอให้ศึกษาจากเอกสารการประชุมที่แจ้งเวียนในกลุ่มไลน์ “ทีม SEhRT)

- ที่ประชุม รับทราบ โดยมีข้อสั่งการ ดังนี้

1) ให้ปรับเกณฑ์ให้มีลักษณะที่สามารถนำไปสื่อสารให้เป็นที่เข้าใจและปฏิบัติได้ง่ายขึ้นกว่านี้ เช่น จัดกลุ่มประเภทกิจกรรม/ กิจการ/สถานประกอบการใดบ้างที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง กลาง ต่ำ โดยดูแนวการเขียนของข้อสรุปมติศบค. เรื่อง สถานบันเทิง โดยให้ส่งภายในวันอังคารที่  24 พ.ค. นี้

2) ให้ใช้โอกาสที่กรมเป็นผู้กำหนดมาตรการต่างๆ เกี่ยวกับการส่งเสริม ป้องกันสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมสำหรับประชาชนและ setting ต่างๆนี้ ต่อยอดในการดำเนินการตามภารกิจของกรม เช่น พ.ร.บ.การสาธารณสุขและการปรับพฤติกรรมสุขภาพ

 

สว.

 

 

 

สว.

 

 

 

ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

 

 

มีการจัดประชุม stag เพื่อปรับเกณฑ์ที่จะนำไปสื่อสารแล้ว เมื่อวันที่  24 พ.ค. 65 และได้นำเสนออธิบดี         

 

 กรมอนามัย พิจารณาการปรับเกณฑ์ดังกล่าว

เรื่องอื่นๆ :

6.1 เสนอรายงานมติศบค. เรื่อง มาตรการสำหรับสถานบันเทิง  

 มีข้อสั่งการ 2 ประเด็น คือ

1) สถานบันเทิงในพื้นที่ที่จะขอเปิดต้องมี NAME LIST  

2) ส่วนกลางกรมอนามัยต้องรู้สถานประกอบการที่ประเมินผ่านเกณฑ์ในระบบ TSC นอกจากนี้ขอให้ประสานนอกรอบกับกระทรวงมหาดไทยและ ศปก.ศบค. เพื่อประสานข้อมูลและการกำกับในพื้นที่

6.2 ติดตามงบฯ กลาง

ข้อสั่งการ : ค่าเสี่ยงภัยให้ขอตามการปฏิบัติงานจริง หากเกี่ยวกับด้านการแพทย์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอเข้ามาได้เลย ส่วนที่เกี่ยวกับด้านสาธารณสุขและสังคมให้พิจารณา โดยบางเรื่องสามารถเขียนขอในเชิงยุทธศาสตร์ได้

6.3 เนื่องจากการประชุม EOC กรมเหลือเพียง 1 ครั้ง/สัปดาห์ จึงให้นำเสนอรายงานผลให้ที่ประชุมทราบ ส่วนงานที่ได้รับมอบหมายที่ต้องพิจารณาในรายละเอียดให้ใช้กลไกอื่น

 

สว

 

 

 

 

 

 

ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง

“”
   

 

 

 

 

 

 

หน่วยงานรับทราบ

Date_12

1. ข้อสั่งการจากการประชุม PHEOC กระทรวงสาธารณสุข ไม่มีข้อสั่งการโดยตรงถึงกรมอนามัย แต่มีประเด็นที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

- สรุปข้อมูลที่อาจเกี่ยวข้องกับงานส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม เรื่องข้อเสนอแนะสำหรับการจัดการเข้าสู่ระยะ Post – Pandemic เสนอพิจารณาให้จังหวัดที่พร้อมได้แสดงมาตรการบริหารจัดการ กรณีเข้าสู่ระยะ Post – Pandemic เพื่อให้มีการผ่อนคลายมาตรการทางสังคม เช่น Zoning Mask – Off, เปิดสถานบันเทิง โดยให้จัดส่งแผนปฏิบัติการฯ ให้ ศปก.ศบค และ สธ. ทราบ ก่อนการพิจารณาปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยจากพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) เป็นพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) โดย ศคบ. ซึ่งคาดมีผลบังคับใช้ 1 มิถุนายน 2565

- ให้ศูนย์เขตติดตามจังหวัดในเขตรับผิดชอบอย่างใกล้ชิดว่ามีความพร้อมสำหรับการเข้าสู่ระยะ Post – Pandemic ได้ เพื่อให้มีการผ่อนคลายมาตรการทางสังคม เช่น Zoning Mask – Off

- ในส่วนกลางร่วมกันระหว่างกรมอนามัยกับกรมควบคุมโรค กำหนด Zoning Mask – Off ควรเป็นพื้นที่แบบไหน ที่เปิดโล่ง มีระบบระบายอากาศที่ดี
หน่วยงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาค   รับทราบ

2. สื่อสารเน้นย้ำให้ประชาชนมีพฤติกรรมป้องกันโรคอย่างต่อเนื่องก่อนจะเข้าสู่ระยะ Post – Pandemic รวมถึงอนามัยผู้สูงอายุได้สื่อสารคำแนะนำและการปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรค โดยเฉพาะการสวมหน้ากากตลอดเวลา ในช่วงเวลาร่วมกิจกรรมทางศาสนาวันวิสาขบูชา

- การกำกับติดตาม เสนอให้ศูนย์อนามัยที่ 1 – 12 รวมถึงสถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง สำนักอนามัยผู้สูงอายุ ได้กำกับติดตามเน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรค ในวัด ศาสนสถาน เรื่องของการจัดให้มีการระบายอากาศที่ดี การเว้นระยะห่าง 1 – 2 เมตร 

หน่วยงานส่วนภูมิภาค, สถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง, กองส่งเสริมความรอบรู้และสื่อสารสุขภาพ, สำนักอนามัยผู้สูงอายุ    

3. เตรียมความพร้อมเรื่องเปิดเทอม ให้คงมาตรการร่วมตามที่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศไป

หน่วยงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาค

กองแผนงาน
   

สรุปข้อสั่งการ PHEOC สธ. มีข้อสั่งการ ดังนี้

1.1 ศึกษาข้อเท็จจริงและลักษณะของอาการ Long Covid ในกลุ่มเด็กอายุไม่เกิน 5 ปี รวมทั้งความแตกต่างของเด็กที่ได้รับวัคซีนฯ และไม่ได้รับวัคซีนฯ

คลัสเตอร์สตรีและเด็กปฐมวัย - - รับทราบ

รายงานอนามัยโพล มีข้อเสนอแนะ ดังนี้

2.1 นำผลสำรวจอนามัยโพลไปใช้ประกอบการสื่อสารสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะประเด็นการรับรู้น้อยที่สุด ในเรื่องการดูแลตนเองเบื้องต้น และขั้นตอน วิธีการเข้าถึงบริการรักษา รวมทั้งสื่อสารเพิ่มความเชื่อมั่นให้ประชาชนในประเด็นความพร้อมต่อการให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น และการปฏิบัติตนป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง

2.2 นำผลสำรวจการรับรู้และทัศนคติต่อมาตรการป้องกันโรค และความพร้อมต่อการให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ไปใช้ประกอบการกำหนดมาตรการป้องกันโรคในช่วง Post Pandemic

กรส.

 

 

ทีม STAG

 

 

 

 

 

อยู่ในระว่างการดำเนินการสื่อสาร

 

 

ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว

การประเมินตนเองของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในระบบ Thai Stop Covid Plus เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรควิด ในสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่ มีข้อสั่งการ ดังนี้

3.1 ปรับมาตรการ Covid Free Customer ในส่วนของหัวข้อ “มีการคัดกรอง” โดยเปลี่ยนสีของเขตพื้นที่การระบาด จากเดิม 1) สีแดงเข้ม 2) สีแดง  ให้เป็น 1) พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า)  2) พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง)

สพด.  

1.ด้านมาตรการฯฉบับ 10 พ.ค. 65 ดำเนินการปรับมาตรการเรียบร้อยแล้ว

  1) การตรวจ ATK ก่อนเปิดสพด.เปลี่ยนจาก 7 เป็น 3 วัน

  2) การกักตัว ถ้าเป็นผู้เสี่ยงสูง เปลี่ยนเป็น 10 วันจากเดิม 14 วัน

  3) ส่วนอื่นคงเดิมทั้งหมด

2.จัดส่งให้กองแผนงานนำไปเผยแพร่บนเว็ปไซต์ TSC/CFSแล้ว

3 .เผยแพร่ไปยังศอ/มท./พม.เรียบร้อยแล้ว